การสอนแบบวิจัยเป็นฐาน (Research-Based Instruction)
อาจารย์ดร.ปัญญฎา ประดิษฐบาทุกา
ความหมาย
นักวิชาการและนักวิจัยทั้งในและต่างประเทศเห็นพ้องต้องกันว่า
การจัดการเรียนรู้แบบใช้วิจัยเป็นฐาน หมายถึง
แนวคิดที่รวมการวิจัยและการสอนเข้าด้วยกัน
ซึ่งการจัดการเรียนรู้แบบวิจัยเป็นฐานที่ดีนั้น
ต้องมาจากหลักสูตรที่กำหนดให้มีการทำวิจัย
ใช้กระบวนการวิจัยในการจัดการเรียนรู้เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้มีการจัดการเรียนรู้โดยให้ผู้เรียนใช้เครื่องมือในการวิจัยและมีการจัดการเรียนรู้โดยใช้ผลงานวิจัยประกอบเนื้อหาที่ศึกษาให้แก่ผู้เรียน(Green. 2010: online)
ทิศนา แขมมณี. (2552:
144-145) ให้ความหมายว่า
เป็นสภาพการณ์ของการจัดการเรียนรู้ที่ให้ผู้เรียนใช้กระบวนการวิจัย
หรือผลการวิจัยเป็นเครื่องมือในการเรียนรู้เนื้อหาสาระต่างๆ โดยอาจใช้
การประมวลผลงานวิจัย (Research review) มาประกอบการสอนเนื้อหาสาระ
ใช้ผลการวิจัยมาเป็นเนื้อหาสาระในการเรียนรู้ใช้กระบวนการวิจัยในการศึกษาเนื้อหาสาระ
หรือให้ผู้เรียนลงมือทำวิจัยโดยตรง หรือช่วยฝึกฝนทักษะการวิจัยต่างๆ
ให้แก่ผู้เรียน
ลัดดา ภู่เกียรติ (2552: 146) ให้ความหมายว่า
เป็นกระบวนการพัฒนาผู้เรียนให้สามารถใช้กระบวนการวิจัยเป็นเครื่องมือในการแสวงหาความรู้
คิดค้นคำตอบและตัดสินใจในการเรียนรู้ของตนเองและเป็นการจัดให้ผู้เรียนได้เรียนรู้และใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์เพื่อแสวงหาความรู้ใหม่หรือค้นหาคำตอบที่เชื่อถือได้
โดยอาศัยกระบวนการสืบสอบในศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่ศึกษาวิจัยในการดำเนินการสืบค้น
พิสูจน์ ทดสอบ เก็บรวบรวมข้อมูล และวิเคราะห์ข้อมูล
ปัญญฎา ประดิษฐบาทุกา (2556: 11) ให้ความหมายว่า
พฤติกรรมการจัดการเรียนรู้แบบวิจัยเป็นฐาน หมายถึง
เป็นการกระทำของผู้สอนเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้โดยใช้ผลงานวิจัยประกอบเนื้อหาที่ศึกษาให้แก่ผู้เรียน
ได้แก่ ผลงานวิจัยของผู้สอน หรือผลงานวิจัยของผู้อื่นในวิชาที่ศึกษา
ตลอดจนการจัดกระบวน การเรียนรู้ที่ใช้กระบวนการวิจัย
ทั้งนี้พฤติกรรมการจัดการเรียนรู้แบบวิจัยเป็นฐานวัดจากตัวแปรสังเกตได้ 2 องค์ประกอบ ได้แก่
1.1 การใช้ผลการวิจัยประกอบการจัดการเรียนรู้ หมายถึง
การที่ผู้สอนจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยนำงานวิจัยของตนเอง
หรือผู้อื่นในศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่ผู้เรียนกำลังทำการเรียนรู้มาเล่าให้ผู้เรียนฟัง
หรือให้ผู้เรียนไปศึกษางานวิจัยของผู้สอนหรือผู้อื่นในศาตร์ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่ผู้เรียนกำลังทำการเรียนรู้
1.2 การใช้กระบวนการวิจัยในการจัดการเรียนรู้ หมายถึง
การที่ผู้สอนจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการวิจัยที่เริ่มจาก การระบุปัญหา
การคาดคะเนคำตอบหรือการตั้งสมมติฐานการเก็บรวบรวมข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล
และการสรุปและนำเสนอ
ผลการศึกษาตามลำดับ เพื่อทำให้ผู้เรียนเกิดความเข้าใจในเนื้อหาสาระที่เรียนรู้ ทั้งนี้ผู้สอนสามารถใช้กระบวนการวิจัยครบทุกขั้นตอน หรือใช้บางขั้นตอนตามความเหมาะสมกับวัตถุประสงค์การเรียนรู้ เนื้อหาสาระการเรียนรู้ และข้อจำกัดที่มี
ผลการศึกษาตามลำดับ เพื่อทำให้ผู้เรียนเกิดความเข้าใจในเนื้อหาสาระที่เรียนรู้ ทั้งนี้ผู้สอนสามารถใช้กระบวนการวิจัยครบทุกขั้นตอน หรือใช้บางขั้นตอนตามความเหมาะสมกับวัตถุประสงค์การเรียนรู้ เนื้อหาสาระการเรียนรู้ และข้อจำกัดที่มี
แนวทางการสอนแบบวิจัยเป็นฐาน
การสอนแบบวิจัยเป็นฐานมีแนวทาง 4 แนวทาง
ซึ่งผู้สอนสามารถเลือกใช้ให้เหมาะสมกับเนื้อหาสาระวิชา วัตถุประสงค์ สถานการณ์
และศักยภาพของผู้เรียน ดังนี้
แนวที่ 1 ผู้สอนนำผลการวิจัยมาใช้ในการสอน
แนวที่ 2 ผู้เรียนศึกษางานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่เรียนรู้
แนวที่ 3 ผู้สอนใช้กระบวนการวิจัยในการสอน
แนวที่ 4 ผู้เรียนทำวิจัยในเรื่องที่เรียนรู้
แนวที่ 1 ผู้สอนเป็นคนอ่านงานวิจัย
และนำผลการวิจัยมาใช้ในการจัดการเรียนรู้ของตนเองในลักษณะใดลักษณะหนึ่ง เช่น
นำเนื้อหาที่เป็นผลการวิจัยมาให้ผู้เรียนได้เรียนรู้
หรือมาเล่าให้ผู้เรียนฟังเป็นการเรียนรู้เพิ่มเติม
แนวที่ 2 ให้ผู้เรียนไปศึกษาค้นคว้างานวิจัยด้วยตนเอง ทำให้ผู้เรียนได้ฝึกทักษะ
การเป็นผู้บริโภคงานวิจัย
ซึ่งเป็นหน้าที่ของผู้สอนที่ต้องเลือกงานวิจัยที่เหมาะสมกับระดับชั้นและวัยของผู้เรียน
หรือผู้สอนอาจต้องทำหน้าที่ในการสรุปย่องานวิจัยให้มีความเหมาะสมกับระดับของผู้เรียน
แนวที่ 3 ผู้สอนใช้กระบวนการวิจัยในการสอน คือ
ผู้สอนออกแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการวิจัยเข้าไปช่วยให้ผู้เรียนเกิดความเข้าใจในเนื้อหาสาระที่ต้องการ
ซึ่งผู้สอนสามารถใช้กระบวนการวิจัยครบทุกขั้นตอนหรือใช้บางขั้นตอนตามความเหมาะสมกับเนื้อหาสาระการเรียนรู้
วัตถุประสงค์และข้อจำกัดที่มี
แนวที่ 4 ให้ผู้เรียนลงมือทำวิจัยด้วยตนเอง
โดยผู้สอนช่วยให้ผู้เรียนดำเนินการตามขั้นตอนการวิจัยต่างๆ
อย่างมีคุณภาพมากที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้
ตารางที่ 1 บทบาทครูในการสอนแบบวิจัยเป็นฐาน
กระบวนการวิจัย
|
บทบาทครูในการสอนแบบวิจัยเป็นฐาน
|
1. ระบุปัญหาการวิจัย
|
ครูจะทำอย่างไร
ผู้เรียนจึงสามารถระบุปัญหาการวิจัยได้ชัดเจน -
ครูควรสอนและฝึกทักษะการสังเกตปัญหา ตั้งคำถาม รวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ปัญหา
และระบุปัญหาที่แท้จริง
|
กระบวนการวิจัย
|
บทบาทครูในการสอนแบบวิจัยเป็นฐาน
|
2. ตั้งสมมติฐาน
|
ครูทำอย่างไร
ผู้เรียนจึงสามารถตั้งสมมติฐานได้ -
ครูควรสอนและฝึกให้ผู้เรียนรู้จักวิธีการวิเคราะห์ข้อมูล
หาสาเหตุคาดเดาคำตอบของปัญหาอย่างมีหลักการ
และมีหลักฐานรองรับและตั้งสมมติฐานที่เหมาะสม
|
3. พิสูจน์ ทดสอบสมมติฐาน
|
ครูทำอย่างไร ผู้เรียนจึงสามารถพิสูจน์ ทดสอบสมมติฐานได้
- ครูควรสอนและฝึกให้ผู้เรียนได้เรียนรู้กระบวนการและวิธีการในการออกแบบ
การพิสูน์หรือทดสอบสมมติฐานที่เหมาะสมกับศาสตร์ของเรื่องที่วิจัย
|
4. รวบรวมข้อมูล
|
ครูจะทำอย่างไร
ผู้เรียนจึงสามารถรวบรวมข้อมูลได้ - ครูควรสอนและฝึกให้ผู้เรียนรู้จักวิธีการแสวงหาแหล่งข้อมูล
วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล
และวิธีการสร้างเครื่องมือที่เหมาะสมกับศาสตร์ของเรื่องที่วิจัย
|
5. วิเคราะห์ข้อมูล
|
ครูจะทำอย่างไร
ผู้เรียนจึงสามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้ -
ครูควรสอนและฝึกให้ผู้เรียนรู้จักวิธีการที่เหมาะสมกับศาสตร์ของเรื่องที่วิจัยในการวิเคราะห์ข้อมูล
การใช้สถิติต่างๆ การกำหนดเกณฑ์ประเมินและ การนำเสนอข้อมูล
|
6. สรุปผล
|
ครูจะทำอย่างไร ผู้เรียนจึงสามารถสรุปผลได้ -
ครูควรสอนและฝึกให้ผู้เรียนรู้จักวิธีการสรุปข้อมูล และการตอบสมมติฐาน
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น